แน่นอนว่าความสัมพันธ์ระหว่างสามีและภรรยา เรื่องของความเชื่อใจและความซื่อสัตย์ ถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะประคองรักษาชีวิตคู่ให้ยืนยาว แต่ก็มีเรื่องราวเรื่องที่เป็นเรื่องอ่อนไหว และไม่ควรพูดกับคู่ชีวิตคุณ เพราะมันอาจจะเป็นเหตุแห่งการทะเลาะกัน และ มีผลร้ายต่อชีวิตคู่คุณได้ เพราะเป็นเรื่องที่ทำร้ายจิตใจอีกฝ่ายได้มากกว่าที่คุณคิด

1.เรื่องแฟนเก่า

แน่นอนว่าทุกคนมีอดีต บางคนก็อาจจะมีเรื่องราวของคนรักเก่า และบางคนก็ไม่อยากจะนึกถึงเหตุการณ์ในช่วงนั้น ดังนั้น การพูดเรื่องราวของคนรักเก่าอีกฝ่าย อาจจะเป็นต้นเหตุแห่งความร้าวฉานในชีวิตคู่ก็ได้

2.เรื่องเพื่อน

แน่นอนว่า คนส่วนใหญ่ที่มีเพื่อน ก็ไม่อยากให้เพื่อนรักของตนเองถูกใครพูดถึงในทางลบ ยิ่งถ้าคนที่พูดวิจารณ์เพื่อนรักเราในทางลบเป็นคนรักของเราแล้วล่ะก็ จะมีหรือที่ชีวิตคู่จะยืนยาว ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงการวิจารณ์เพื่อนของคนรักเราในทางลบดีกว่าค่ะ

3.เรื่องครอบครัว (ทั้งสองฝ่าย)

 เมื่อเราลืมตาดูโลก ครอบครัวเป็นสถาบันสังคมแรกที่คอยอบรม ส่งเสีย และเลี้ยงดู ความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้น จึงเป็นเหมือนสายใยความรักที่ไม่มีเงื่อนไข ดังนั้น การพูดถึงครอบครัวของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในทางลบ นานๆไปเข้า ย่อมเป็นการทำลายความสัมพันธ์เป็นอย่างมาก และยังเป็นต้นเหตุแห่งปัญหาแม่ผัวลูกสะไภ้อีกด้วย ดังนั้น การเลี่ยงการพูดเรื่องครอบครัวฝ่ายใดฝ่ายนึง จึงน่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดค่ะ

4.เรื่องจุดด้อยหรือปมด้อยของอีกฝ่าย

เราทุกๆคนก็มักมีจุดด้อยขงตนเองทั้งนั้น และก็คงไม่ชอบให้ใครมาวิจารณ์หรือล้อเลียนจุดด้อยของตัวเองแน่นอน ดังนั้นจึงไม่ควรพูดถึงจุดด้อยของคู่ชีวิตคุณ เพราะมันจะเป็นการทำร้ายจิตใจคนรักคุณ จนเป็นต้นเหตุของความร้าวฉานได้ค่ะ

5.คำพูดประชดประชัน

หากสถานะความสัมพันธ์ของความเป็นสามีภรรยามาอย่างเนิ่นนาน อาจมีบางช่วงเวลาที่รักอาจไม่หวานเหมือนเก่า แต่นั่นไม่ได้แปลว่าเขาไม่รักคุณ ดังนั้น การจะเรียกร้องความสนใจด้วยการประชดประชัน จึงเป็นวิธีที่ผิดที่สุด เพราะว่าคำพูดแบบนี้เป็นการทำร้ายจิตใจของอีกฝ่ายอย่างมาก และยังเป็นมลพิษทางอารมณ์แก่ทั้งสองฝ่ายอีกด้วย

เห็นหรือยังล่ะคะว่า เรืองราวบางเรื่อง ที่ดูเหมือนจะไม่มีอะไร แต่ก็เป็นถ้อยคำที่ทำร้ายจิตใจให้แก่อีกฝ่ายเป็นอย่างมากเพราะฉะนั้น เพื่อในชีวิตคู่ระหว่างตัวคุณกับหวานใจคุณอยู่ยั่งยืนไปนานๆ ควรเลี่ยงคำพูดเหล่านี้ และ เลี่ยงการพูดเรื่องราวเหล่านี้ดีกว่าค่ะ

ตามหาความรักกันได้ที่ www.koo-up.com